ชื่อวิทยาศาสตร์ : Psidium guajava L.
ชื่อสามัญ :
Guava
วงศ์ :
MYRTACEAE
ชื่ออื่น :
สุราษฎร์ธานี จุ่มโป่, ปัตตานี ชมพู่, เชียงใหม่
มะก้วย, เหนือ มะก้วยกา มะมั่น, แม่ฮ่องสอน
มะกา, ตาก มะจีน, ใต้
ยามู ย่าหมู, นครพนม สีดา, จีนแต้จิ๋ว
ปั๊กเกี้ย
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ต้น ขนาดกลาง สูง 3-5
เมตร ผิวเปลือกต้นเรียบเกลี้ยง กิ่งอ่อนเป็นสี่เหลี่ยม ใบ หนา หยาบ
ใต้ท้องใบเป็นริ้ว เห็นเส้นใบชัดเจน ขนขึ้นนวลบาง ใบยาวประมาณ 10
ซม. กว้างประมาณ 6 ซม. ดอกช่อ ช่อหนึ่งมีดอกย่อย 3 - 5
ดอก ดอกเล็ก สีขาวอมเขียวอ่อน กลีบเลี้ยงแข็ง ผล รูปทรงกลม รูปไข่ หรือรูปรี ผิว
เกลี้ยง สีเขียว เนื้อในขาว รสหวาน กรอบ ผลสุกสีเหลือง- เขียว มีเมล็ดเล็กๆ
แข็งอยู่ภายใน
ส่วนที่ใช้ : ใบเพสลาด ผลอ่อนสด ผลสุก
เปลือกต้นสดๆ ราก
สรรพคุณ :
ฝรั่งมีสารแทนนินอยู่มาก สารนี้มีฤทธิ์ฝาดสมานน้ำมันหอมระเหยในใบฝรั่ง
สารแทนนินในฝรั่งยังยับยั้งการลุกลามของเชื้อโรค ช่วยสมานท้องและลำไส้
โดยช่วยลดอาการอักเสบของกระเพาะลำไส้ และช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียน
และยังช่วยอาการเกร็งตัวของลำไส้ ทำให้อาการปวดท้องบรรเทาลงได้ แก้ปวดเบ่ง
ใบ
- แก้ท้องเสีย ท้องร่วง ท้องเดิน
(ที่ไม่ใช่บิด หรืออหิวาตกโรค)
เป็นยาห้ามเลือด ใส่แผลสด ใช้ใบ 2-3 ใบเคี้ยวๆ ระงับกลิ่นปาก แก้ฝี
เป็นยาล้างแผล ดูดหนองและถอนพิษบาดแผล แก้เหงือกบวม แก้พิษเรื้อรัง
แก้ปวดเนื่องจากเล็บขบ แก้แพ้ยุง
ผลอ่อน - แก้ท้องเสีย ท้องร่วง ท้องเดิน
ระงับกลิ่นปาก แก้บิดมูกเลือด มีไวตามินซีมาก เป็นกันหรือแก้โรคเลือดออกตามไรฟัน
(ลักปิดลักเปิด) บำรุงเหงือกและฟัน บำรุงผิวพรรณ
ผลสุก - มีสารเพ็กตินอยู่มาก
ใช้รับประทานเป็นยาระบายได้
ราก - แก้น้ำเหลืองเสีย เป็นฝี แผลพุพอง
แก้เลือดกำเดาไหล
วิธีและปริมาณที่ใช้
ใช้ฝรั่งแก้ท้องเสีย ท้องร่วง ท้องเดิน
วิธีที่ 1
รับประทานสด
- ใช้ส่วนที่เป็นยอดอ่อนๆ 7
ยอด หรือใบเพสลาด 6-8 ใบ ค่อยๆ เคี้ยวให้ละเอียดทีละน้อย ค่อยๆ กลืน
แล้วดื่มน้ำตาม ถ้าเคี้ยวทีละมากๆ จะรู้สึกฝาดขม ถ้าเคี้ยวกับเกลือเล็กน้อย
จะช่วยให้รับประทานง่ายขึ้น
วิธีนี้ได้ผลมาก
เพราะรับประทานทั้งน้ำและเนื้อของใบฝรั่งจนหมด ได้ตัวยาครบถ้วน
- อาจรับประทานผลดิบ ครั้งละ 1-2 ผล
โดยเคี้ยวก่อนค่อยกลืนก็ได้
วิธีที่ 2
ต้มดื่ม
- ใช้ใบเพสลาด 5-10 ใบ
หรือเปลือกต้นสดๆ 1 ฝ่ามือ ใส่น้ำ 2
ถ้วยแก้ว ต้มเดือดนาน 5-30 นาที เคี่ยวให้เหลือ 1
ถ้วยแก้ว รับประทานครั้งละ รับประทานครั้งละ ½ - 1
แก้ว วันละ 2 ครั้งรับประทานตามอาการหนักเบา เวลาดื่มเติมเกลือเล็กน้อยทำให้ดื่มง่ายขึ้น
วิธีที่ 3
ชงน้ำร้อนดื่ม
- เอายอดฝรั่ง
7 ยอด หรือใบฝรั่ง 6-10 ใบ
ชงกับน้ำเดือด 2 แก้ว ปิดฝาไว้ 15-20
นาที ดื่มครั้งละ 1 แก้ว ดื่มบ่อย ๆ
วิธีที่ 4
ต้มคั้นเอาน้ำ
- เอาใบฝรั่ง
6-10 ใบ ตำให้ละเอียด ผสมน้ำสุก 3-5
ช้อนแกง ต้มให้เข้ากัน กรองด้วยผ้าขาว เอาน้ำผสมเกลือเล็กน้อยดื่มจนหมด
วิธีที่ 5
บดผงรับประทาน
- ใช้ผลฝรั่งที่เกือบแก่ หั่นเป็นแว่นบาง ๆ
ตากแห้งบดเป็นผง รับประทานครั้งละ ½-1ช้อนชา โดยผสมน้ำ
วิธีนี้รสชาติดีเด็กดื่มได้ง่าย
ใช้เป็นยาห้ามเลือด
- ใช้ใบสดล้างน้ำให้สะอาด
ตำให้ละเอียดพอกแผลที่มีเลือดออก เลือดจะหยุด
ช่วยระงับกลิ่นปาก
- ใช้ใบสด
3-5 ใบ เคี้ยวและคายกากออกทิ้ง
เป็นยากันหรือแก้โรคลักปิดลักเปิด
ฝรั่งมีไวตามินซีมาก
- ใช้ผลโตเต็มที่แต่ไม่สุก
รับประทานเป็นผลไม้ จะเป็นผลไม้ที่ช่วยบำรุงเหงือกและ
ฟัน ช่วยลดน้ำตาลในเลือด
รักษาท้องลำไส้ไม่ให้ผูก ช่วยบำรุงผิวพรรณ คนที่ชอบเป็นฝีเป็นแผลพุพอง
ถ้ารับประทานฝรั่งบ่อย ๆ ก็ช่วยบรรเทาลงไปได้
หมายเหตุ
ฝรั่งที่ควรปลูก ควรเป็นฝรั่งขี้นก เพราะมีโรคน้อย มีเพลี้ยแป้งน้อย
ดูแลรักษาง่าย ที่สำคัญมีสรรพคุณทางยาที่ดีที่สุด
มีไวตามินซีสูงกว่าฝรั่งพันธุ์อื่น ๆ
สารเคมี
ใบ มีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งประกอบด้วย Caryophyllene cineol, นอกจากนี้ยังมี
Tannin, sesquiter penoids และ triterpenoid compounds.
ผล มี fixed oil 6% Volatile oil 0.365% tannin 8-15%
beta-sitosterol, quercetin, Vitamin C (330 mg.%), Arabinose,